วันศุกร์ที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2550
รูปวาดเล่นๆ ตอนทำโปรเจค
ถ้าหากลงสีแล้วเดี๋ยวจะอัพมาให้ดูนะครับ รอคอยอีกซักพัก
ผมถนัดพวกวาดภาพประกอบมากกว่า อุอุ ในDegree Project ผมได้ทำเรื่องการ์ดเกม ถาพประกอบก็จะเป็นแบบนี้ แต่มีการลงสีมากกว่านี้
(บอกแล้วไงว่าเสร็จจะอัพมาให้)
Final Project Communication Design 5 (แก้ไข)
หลังจากในวันที่7ตุลาคม ผมได้ไปแก้ไขงานเพิ่มเติม ในส่วนนี้ผมแก้ไขทั้งหมดให้ดูน่าสนใจมากขึ้น
ขออภัยที่ส่งบล็อกช้า............จากคำวจารณ์และคำบอกเล่าของเพื่อนเพื่อน ผมได้แก้ไขในเรื่องของตัวเองและผลงานมากขึ้น
Communication Design5 ทำให้ผมทำอะไรที่ผมไม่เคยทำ และได้ให้ผมพิสูจน์ตัวเอง ผมได้เข้าใจในรายละเอียดของวิชานี้มากขึ้น
ผมพยามเข้าใจและได้รู้แจ้งในเรื่องบางส่วนจนผลักดันโปรเจคของผมให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ต่อไปนี้ผมจะเอาใจใส่กับงานมากขึ้น
(ตัวอย่างโปสเตอร์)
Sequence คู่ขนาน
ในทฤษฎีของ Quantum ที่ว่าด้วยโลกคู่ขนาน
ทฤษฎีของโลกคู่ขนานนี้เกี่ยวข้องกับทฤษฎีความน่าจะเป็นโดยจะมีตัวให้เลือกคล้ายกับการเสี่ยงสุ่มโดยหน้าของลูกเต๋าว่าจะออกหน้าอะไร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบให้เกิดสิ่งใหม่ในขั้นตอนถัดไป โดยสิ่งนี้อาจมีจุดเริ่มเหมือนกันแต่จุดจบไม่เหมือนกัน และสามารถเกิดต่อไปได้เรื่อยๆอีก ซึ่งจะมีจุดจบ หรือไม่มีก็ได้
เลือกการพับกระดาษมาเป็นสื่อของSequenceคู่ขนาน โดยจะมีการเลือกที่จะพับว่าจะพับไปข้างหน้าหรือข้างหลังโดยใช้กระดาษด้านหนึ่งเป็นสีขาวและอีกด้านหนึ่งเป็นสีดำ เมื่อพับกระดาษแล้วรูปทรงของกระดาษจะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้พับ
งานเก่ารูปถ่ายหายครับ เดี๋ยวผมจะจัดแจงอัพใหม่โดยเร็วที่สุดครับ เอางานแก้ไปดูก่อนนะครับ ของคุณที่ชมครับ
ขออภัยที่ส่งบล็อกช้า............จากคำวจารณ์และคำบอกเล่าของเพื่อนเพื่อน ผมได้แก้ไขในเรื่องของตัวเองและผลงานมากขึ้น
Communication Design5 ทำให้ผมทำอะไรที่ผมไม่เคยทำ และได้ให้ผมพิสูจน์ตัวเอง ผมได้เข้าใจในรายละเอียดของวิชานี้มากขึ้น
ผมพยามเข้าใจและได้รู้แจ้งในเรื่องบางส่วนจนผลักดันโปรเจคของผมให้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ต่อไปนี้ผมจะเอาใจใส่กับงานมากขึ้น
(ตัวอย่างโปสเตอร์)
Sequence คู่ขนาน
ในทฤษฎีของ Quantum ที่ว่าด้วยโลกคู่ขนาน
ทฤษฎีของโลกคู่ขนานนี้เกี่ยวข้องกับทฤษฎีความน่าจะเป็นโดยจะมีตัวให้เลือกคล้ายกับการเสี่ยงสุ่มโดยหน้าของลูกเต๋าว่าจะออกหน้าอะไร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบให้เกิดสิ่งใหม่ในขั้นตอนถัดไป โดยสิ่งนี้อาจมีจุดเริ่มเหมือนกันแต่จุดจบไม่เหมือนกัน และสามารถเกิดต่อไปได้เรื่อยๆอีก ซึ่งจะมีจุดจบ หรือไม่มีก็ได้
เลือกการพับกระดาษมาเป็นสื่อของSequenceคู่ขนาน โดยจะมีการเลือกที่จะพับว่าจะพับไปข้างหน้าหรือข้างหลังโดยใช้กระดาษด้านหนึ่งเป็นสีขาวและอีกด้านหนึ่งเป็นสีดำ เมื่อพับกระดาษแล้วรูปทรงของกระดาษจะแตกต่างกันไปโดยขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของผู้พับ
งานเก่ารูปถ่ายหายครับ เดี๋ยวผมจะจัดแจงอัพใหม่โดยเร็วที่สุดครับ เอางานแก้ไปดูก่อนนะครับ ของคุณที่ชมครับ
วันจันทร์ที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2550
การพับ
พับนก
พับมังกร....อันนี้ไม่มีวิธีการพับ
พับเลข8
พับคุณช้าง
พับเค้ก
ได้ไปลองดูวิธีการพับของญี่ปุ่นที่เกิดจากกระดาษแผ่นเดียว
รูปทรงของกระดาษก่อนที่จะพับเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสทั้งหมด
ญี่ปุ่นเป็นชนชาติที่ควรได้รับการยกย่องในหลายหลายๆด้าน เพราะมีไอเดียแปลกๆจึงอยากนำมาเสนอให้ได้ชมกัน
ซึ่งจะเห็นได้ว่าการพับนั้นเกิดจากการตัดสินใจที่จะพับออกมาและเลือกว่าจะพับตรงไหนทำให้จุดหมายปลายทางไม่เหมือนกัน
สิ่งที่จะนำมาประยุกต์ใช้งานที่เกิดจากการพับ
ผมติดปัญหาอยู่ที่รูปแบบการพับของของแต่ละอย่างไม่เหมือนกัน ผมจึงต้องศึกษาว่าจะทำอย่างไรการพับถึงอธิบายSequenceของผมได้อย่างตรบถ้วน และมีความน่าสนใจ+สนุก อยู่ในงานออกแบบ
- ผมคิดจะนำข้อมูลของการพับมาใช้ในการออกแบบ ว่าเมื่อเวลาเราพับตรงไหนจะเปลี่ยนไปอย่างไร
- รูปทรงที่ใช้เริ่มอาจเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัส เพราะผมเอาวิธีการพับแบบญี่ปุ่นมาอ้างอิง และอาจมีการลอกวิธีการพับบางส่วนเพื่อใช้เป็นแกนการพับ
http://www.origami-club.com/ >>>>สนใจดูการพับแบบอื่นlinkไปที่เวปนี้ได้นะครับ
วันจันทร์ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2550
แก้ข้อผิดพลาดของงานคู่ขนาน
Sequence คู่ขนาน ในทฤษฎีของ Quantum ที่ว่าด้วยโลกคู่ขนาน
ทฤษฎีของโลกคู่ขนานนี้เกี่ยวข้องกับทฤษฎีความน่าจะเป็นโดยจะมีตัวให้เลือกคล้ายกับการเสี่ยงสุ่มโดยหน้าของลูกเต๋าว่าจะออกหน้าอะไร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบให้เกิดสิ่งใหม่ในขั้นตอนถัดไป โดยสิ่งนี้อาจมีจุดเริ่มเหมือนกันแต่จุดจบไม่เหมือนกัน และสามารถเกิดต่อไปได้เรื่อยๆอีก ซึ่งจะมีจุดจบ หรือไม่มีก็ได้
โดยเส้นทางที่เชื่อมต่อซึ่งทำให้วัตถุเปลี่ยนแปลงไปอาจคล้ายกับLink โดยมีลักษณะที่คล้ายกับท่อต่อน้ำ ซึ่งทำให้วัตถุที่เกิดขึ้นต่างกันออกไป
Linkที่เกิดขึ้นอาจมีลักษณะคล้ายกับท่อส่งน้ำซึ่งอยู่ในจุดA1 และA2 ซึ่งทั้งสองจุดไม่ใช่การเลือก แต่เป็นจุดเชื่อมต่อเพื่อให้ส่งต่อจากจุด A1 ไปยังจุดA2 ได้ซึ่งอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของSequenceแบบส่งต่อกันก็ได้ ซึ่งวัตถุที่ยกมาจะอยู่ในรูปของวัตถุที่สามารถเปลี่ยนรูปได้ซึ่งในขั้นตอนนี้ได้ยกตัวอย่างของน้ำที่อยู่ในท่อซึ่งน้ำจะสามารถเปลี่ยนรูปได้เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมต่างๆ และสามารถเปลี่ยนรูปร่างเพื่อเคลื่อนให้ไปหาอีกจุดหมายหนึ่งได้ แต่รูปร่างของน้ำจะไม่คงตัวทำให้ไม่สามารถยกรูปแบบของน้ำมาเป็นตัวอย่างในSequenceคู่ขนานได้ เพราะน้ำจะไม่หลงเหลือรูปทรงของในอดีตได้มากว่าความเป็นน้ำที่อยู่ในภาชนะใหม่
หารูปแบบที่มีลักษณะคล้ายกัน....ดินน้ำมันน่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่าน้ำ เพราะว่าดินน้ำมันมีของแข็งกึ่งเหลวที่สามารถซึมซับเหตุการณ์ในอดีต....เมื่อเราขยำรูปร่างดินน้ำมันก็เปลี่ยนไปตามที่เราขยำ เมื่อเราปามันลงกับพื้นรูปร่างก็มันก็มีบางส่วนที่แบนและมีบางส่วนที่มีเหตุการณ์ของมันอยู่บ้าง และเมื่อเรานำมีดมาตัดครึ่งมันรูปร่างของมันก็ยังบอกถึงว่ามันเคยถูกขยำและถูกปามาก่อน เพราะรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากสิ่งที่อดีตได้กระทำมา
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับทฤษฎีโลกคู่ขนานของ Quantum ที่พูดถึงโลกในแบบที่ทับซ้อนกัน ซึ่งเป็นโลกของความน่าจะเป็น สถานะที่ต่างกันออกไปความสัมพันธ์นี้จะสิ้นสุดลง เมื่อมีการเลือกทางใดทางหนึ่งของความน่าจะเป็นนั้น ซึ่งหลังจากที่มีการเลือกเกิดขึ้นแล้วเอกภพคู่ขนานทั้งสองจะไม่สัมพันธ์กันอีกเลย โดยนำเอาการเคลื่อนที่ของน้ำที่อยู่ในรูปแบบของท่อ กับวัตถุที่เป็นดินน้ำมัน จะได้ดังนี้
-วัตถุที่เลือกต้องมีความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้า
-วัตถุที่เลือกต้องเปลื่ยนไปไปตามแต่ละสถานที่โดยเป็นขั้นตอน
-เมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วต้องอ้างถึงเหตุการณ์เก่า(น่าจะเหลือการเปลี่ยนแปลงครั้งก่อนไว้ให้เห็น)
ผมจึงหาวัตถุที่ใกล้เคียงกับดินน้ำมัน...ซึ่งน่าจะเป็นกระดาษเพราะกระดาษเป็นสิ่งที่บอบบางและสามารถเปลี่ยนรูปร่างด้วยวิธีการพับ....ผมหยุดความคิดนี้ไว้จนถึงวันศุกร์
ผมจึงคิดต่อไปอีกว่าผมจะใช้กระดาษมาเป็นตัวช่วยในการออกแบบอย่างไร
ในวันศุกร์ผมได้ไปดูนิทรรศการที่Central World ผมได้หยิบแผ่นพับขึ้นมาดูและพบว่า....เมื่อผมกางออกทั้งหมดและพับเก็บอีกครั้ง ผมจำไม่ได้ว่าผมควรจะพับไปด้านหน้าหรือด้านหลังดี และการพับเก็บของผมก็แปลกออกไป ผมจึงต้องย้อนไปพับใหม่อีกครั้ง ผมคิดว่าแผ่นพับน่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของผมได้ดีที่สุด เพราะเมื่อเราพับตามแบบที่เขาไม่ได้พับจะทำให้ผลสิ้นสุดแตกต่างออกไป ซึ่งจุดสิ้นสุดของเราจะเหมือนกับดินน้ำมันที่ถูกปาถูกขยำถูกตัดเป็นต้น
ทฤษฎีของโลกคู่ขนานนี้เกี่ยวข้องกับทฤษฎีความน่าจะเป็นโดยจะมีตัวให้เลือกคล้ายกับการเสี่ยงสุ่มโดยหน้าของลูกเต๋าว่าจะออกหน้าอะไร ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะส่งผลกระทบให้เกิดสิ่งใหม่ในขั้นตอนถัดไป โดยสิ่งนี้อาจมีจุดเริ่มเหมือนกันแต่จุดจบไม่เหมือนกัน และสามารถเกิดต่อไปได้เรื่อยๆอีก ซึ่งจะมีจุดจบ หรือไม่มีก็ได้
โดยเส้นทางที่เชื่อมต่อซึ่งทำให้วัตถุเปลี่ยนแปลงไปอาจคล้ายกับLink โดยมีลักษณะที่คล้ายกับท่อต่อน้ำ ซึ่งทำให้วัตถุที่เกิดขึ้นต่างกันออกไป
Linkที่เกิดขึ้นอาจมีลักษณะคล้ายกับท่อส่งน้ำซึ่งอยู่ในจุดA1 และA2 ซึ่งทั้งสองจุดไม่ใช่การเลือก แต่เป็นจุดเชื่อมต่อเพื่อให้ส่งต่อจากจุด A1 ไปยังจุดA2 ได้ซึ่งอาจจะเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของSequenceแบบส่งต่อกันก็ได้ ซึ่งวัตถุที่ยกมาจะอยู่ในรูปของวัตถุที่สามารถเปลี่ยนรูปได้ซึ่งในขั้นตอนนี้ได้ยกตัวอย่างของน้ำที่อยู่ในท่อซึ่งน้ำจะสามารถเปลี่ยนรูปได้เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมต่างๆ และสามารถเปลี่ยนรูปร่างเพื่อเคลื่อนให้ไปหาอีกจุดหมายหนึ่งได้ แต่รูปร่างของน้ำจะไม่คงตัวทำให้ไม่สามารถยกรูปแบบของน้ำมาเป็นตัวอย่างในSequenceคู่ขนานได้ เพราะน้ำจะไม่หลงเหลือรูปทรงของในอดีตได้มากว่าความเป็นน้ำที่อยู่ในภาชนะใหม่
หารูปแบบที่มีลักษณะคล้ายกัน....ดินน้ำมันน่าจะตอบโจทย์ได้มากกว่าน้ำ เพราะว่าดินน้ำมันมีของแข็งกึ่งเหลวที่สามารถซึมซับเหตุการณ์ในอดีต....เมื่อเราขยำรูปร่างดินน้ำมันก็เปลี่ยนไปตามที่เราขยำ เมื่อเราปามันลงกับพื้นรูปร่างก็มันก็มีบางส่วนที่แบนและมีบางส่วนที่มีเหตุการณ์ของมันอยู่บ้าง และเมื่อเรานำมีดมาตัดครึ่งมันรูปร่างของมันก็ยังบอกถึงว่ามันเคยถูกขยำและถูกปามาก่อน เพราะรูปร่างที่เปลี่ยนไปจากสิ่งที่อดีตได้กระทำมา
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับทฤษฎีโลกคู่ขนานของ Quantum ที่พูดถึงโลกในแบบที่ทับซ้อนกัน ซึ่งเป็นโลกของความน่าจะเป็น สถานะที่ต่างกันออกไปความสัมพันธ์นี้จะสิ้นสุดลง เมื่อมีการเลือกทางใดทางหนึ่งของความน่าจะเป็นนั้น ซึ่งหลังจากที่มีการเลือกเกิดขึ้นแล้วเอกภพคู่ขนานทั้งสองจะไม่สัมพันธ์กันอีกเลย โดยนำเอาการเคลื่อนที่ของน้ำที่อยู่ในรูปแบบของท่อ กับวัตถุที่เป็นดินน้ำมัน จะได้ดังนี้
-วัตถุที่เลือกต้องมีความอ่อนไหวต่อสิ่งเร้า
-วัตถุที่เลือกต้องเปลื่ยนไปไปตามแต่ละสถานที่โดยเป็นขั้นตอน
-เมื่อเปลี่ยนแปลงแล้วต้องอ้างถึงเหตุการณ์เก่า(น่าจะเหลือการเปลี่ยนแปลงครั้งก่อนไว้ให้เห็น)
ผมจึงหาวัตถุที่ใกล้เคียงกับดินน้ำมัน...ซึ่งน่าจะเป็นกระดาษเพราะกระดาษเป็นสิ่งที่บอบบางและสามารถเปลี่ยนรูปร่างด้วยวิธีการพับ....ผมหยุดความคิดนี้ไว้จนถึงวันศุกร์
ผมจึงคิดต่อไปอีกว่าผมจะใช้กระดาษมาเป็นตัวช่วยในการออกแบบอย่างไร
ในวันศุกร์ผมได้ไปดูนิทรรศการที่Central World ผมได้หยิบแผ่นพับขึ้นมาดูและพบว่า....เมื่อผมกางออกทั้งหมดและพับเก็บอีกครั้ง ผมจำไม่ได้ว่าผมควรจะพับไปด้านหน้าหรือด้านหลังดี และการพับเก็บของผมก็แปลกออกไป ผมจึงต้องย้อนไปพับใหม่อีกครั้ง ผมคิดว่าแผ่นพับน่าจะเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ของผมได้ดีที่สุด เพราะเมื่อเราพับตามแบบที่เขาไม่ได้พับจะทำให้ผลสิ้นสุดแตกต่างออกไป ซึ่งจุดสิ้นสุดของเราจะเหมือนกับดินน้ำมันที่ถูกปาถูกขยำถูกตัดเป็นต้น
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
วันจันทร์ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2550
ทำลองคู่ขนาน
คู่ขนานแบบความน่าจะเป็นในทฤษฏีของQuantum parallel universe
เมื่อนำทฤษฏีนี้มาใช้กับแผนที่ม.กรุงเทพ...จะหมายถึงการเลือกหรือความน่าจะเป็นว่ามีกี่วิธี
ชุดแรกเป็นวิธีของการเดินตามทาง(ถนน)โดยห้ามเดินทางย้อนกลับมาทางที่เคยเดินไปแล้ว
1.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก1-ผ่านตึก2-ผ่านตึก3-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ไปถึงหอสมุด
2.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก5-ผ่านตึก6-ผ่านตึก3-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ไปถึงหอสมุด
3.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก5-ผ่านตึก6-ผ่านตึก10-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ไปถึงหอสมุด
4.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก1-ผ่านตึก2-ผ่านตึก3-ผ่านตึก6-ผ่านตึก10-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ไปถึงหอสมุด
เมื่อลองคิดนอกกรอบ...การเดินทางไปทางไหนก็ได้โดยไม่เดินซ้ำกับเส้นทางที่เคยเดินมาแล้ว
ซึ่งจะได้วิธีอีกหลายวิธี เช่น
5.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก5-ผ่านตึก6-ผ่านตึก10-ผ่านตึก8-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ไปถึงหอสมุด
6.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก1-ผ่านตึก2-ผ่านตึก3-ผ่านตึก6-ผ่านตึก10-ผ่านตึก8-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ไปถึงหอสมุด
7.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก5-ผ่านตึก6-ผ่านตึก10-ผ่านตึก8-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ผ่านตึก11-ผ่านตึก12-ไปถึงหอสมุด
8.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก1-ผ่านตึก2-ผ่านตึก3-ผ่านตึก6-ผ่านตึก10-ผ่านตึก8-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ผ่านตึก11-ผ่านตึก12-ไปถึงหอสมุด
9.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก1-ผ่านตึก2-ผ่านตึก3-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ผ่านตึก11-ผ่านตึก12-ไปถึงหอสมุด
10.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก1-ผ่านตึก2-ผ่านตึก3-ผ่านตึก8-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ผ่านตึก11-ผ่านตึก12-ไปถึงหอสมุด
11.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก1-ผ่านตึก2-ผ่านตึก3-ผ่านตึก6-ผ่านตึก10-ผ่านตึก8-ผ่านตึก7-ไปถึงหอสมุด
12.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก5-ผ่านตึก6-ผ่านตึก10-ผ่านตึก8-ผ่านตึก7-ไปถึงหอสมุด
13.ผ่านหน้ามหาลัย-ผ่านตึก4-ผ่านตึก5-ผ่านตึก6-ผ่านตึก10-ผ่านตึก8-ผ่านตึก7-ผ่านตึก9-ผ่านตึก11-ผ่านตึก12-ไปถึงหอสมุด
สรุปการทดลอง
-เป็นระบบSequenceที่มีจุดเริ่มและจุดจบเดียวกัน(มีทางเข้าทางเดียวและทางออกทางเดียว)
-มีการจัดเรียงที่ไม่เหมือนกัน โดยอาจมีการสลับของSequenceบางพจน์ได้
-จำนวนของSequenceอาจไม่เท่ากันก้อได้
-มีการกำหนดให้บางตัวต้องตามบางตัวเท่านั้น หรือตามด้วยตัวไหนก็ได้
-การทดลองนี้เป็นการทดลองที่ใช้ชื่อของตึกตั้งแต่ตึก1-12มาใช้เพื่อให้เกิดความเข้าใจง่าย
-การทดลองนี้ไม่ใช่การทดลองที่สมบูรณ์แต่เเป็นการหยิบบางส่วนมาชี้ เพื่อตอบโจทย์แบบคู่ขนานแบบQuantum
สรุปงานทดลองที่จะเกิดขึ้น
-มีลักษณะคล้ายตัวอย่างดังกล่าว โดยนำการเชื่อมโยง การสลับ ความน่าจะเป็นมาใช้ในงานออกแบบ
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
สรุปคู่ขนาน
1.ขนานทางคณิตศาสตร์
- มีตั้งแต่2กลุ่มขึ้นไป
- เมื่อลากเส้นตัดที่90องศา เส้นต้องตั้งฉากกันทั้งหมด
- เหมือนหรือไม่เหมือนก็ได้
- เส้นจะยาวเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้
- ต้องอยู่บนระนาบเดียวกัน
- ช่องว่าระหว่าเส้นต้องเท่ากันเสมอ
- อาจเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้งก็ได้
2.ขนานทางปรัชญา...จะเป็นความรู้สึกของการใช้คำว่าคู่ขนาน เช่น พรรคการเมืองคู่ขนาน(น่าจะหมายถึงพรรคการเมืองที่มีความคิดเห็นที่ไม่สามารถบรรจบกันได้) อาจเป็นความหมายของคูขนานในเชิงลบ
สรุปทฤษฏีคู่ขนาน ของดร. อรรถกฤต ฉัตรภูติ
1. Quantum parallel universe ซึ่งกล่าวว่าอาจจะมีเอกภพอื่นๆ ซึ่งมี กฎทางฟิสิกส์ และ ค่าคงที่ต่างๆเหมือนกับเอกภพที่เราอยู่ทุกประการ แต่อาจจะอยู่ในสถานะที่ต่างกัน และ เอกภพคู่ขนานเหล่านี้ไม่สามารถที่จะติดต่อกันได้ ในโลกของควอนตัมซึ่งเป็นโลกของความน่าจะเป็น สถานะที่ต่างกันออกไป ในแต่ละเอกภพจะสัมพันธกัน โดยกระบวนการทางควอนตัมที่เรียกว่า Quantum superposition และ ความสัมพันธ์นี้จะสิ้นสุดลง เมื่อมีการเลือกทางใดทางหนึ่งของความน่าจะเป็นนั้น ซึ่งหลังจากที่มีการเลือกเกิดขึ้นแล้ว เอกภพคู่ขนานทั้งสองจะไม่สัมพันธ์กันอีกเลย....มีความน่าจะเป็น เมื่อความน่าจะเป็นเกิดขึ้น เอกภพคู่ขนานทั้งจะไม่สัมพันธ์กันอีกเลย
2. Inflation multi-universes เป็นแนวคิดที่พัฒนามาจากการศึกษาจักรวาลวิทยา (cosmology) หรือ การศึกษาเกี่ยวกับการกำเนิด และ วิวัฒนาการของเอกภพ หลักฐานที่เราได้จากคลื่นแม่ไมโครเวฟพื้นหลัง (Cosmic Microwave Background Radiation) ทำให้เชื่อว่าเอกภพที่เราอาศัยอยู่ ณ ขณะนี้ มีวิวัฒนาการมาจากการระเบิดครั้งใหญ่ที่เรียกว่า บิกแบง (Big Bang)
3.แนวคิดเรื่องเอกภพคู่ขนานในกลุ่มนี้ เป็นแนวคิดที่ได้มาจากทฤษฎีเส้นเชือก หรือ
String Theory ซึ่งเป็นทฤษฎีที่สร้างขึ้นมาเพื่อที่จะอธิบายธรรมชาติของแรงโน้มถ่วงในระดับพลังงานสูงๆ ก่อนอื่นต้องขออธิบายว่าในวิชาฟิสิกส์เราแบ่งแรงในธรรมชาติออกเป็น 4 ชนิด คือ
3.1แรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นแรงที่ดึงดูดมวลสารและพลังงานเข้าด้วยกัน เช่น แรงที่ดึงดูดดวงจันทร์เข้ากับโลกเป็นต้น
3.2แรงแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นแรงที่กระทำกับอนุภาคที่มีประจุ เช่น แรงที่ดูดอิเล็กตรอนให้วิ่งวนรอบนิวเคลียส เป็นแรงที่อยู่เบื้องหลังปฏิกิริยาเคมีทั้งหมด รวมถึงระบบประสาทในสิ่งมีชีวิต
3.3แรงนิวเคลียร์แบบอ่อน เป็นแรงที่เกิดในการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี และปฏิกิริยานิวเคลียร์บนดวงอาทิตย์เป็นต้น
3.4สี่แรงนิวเคลียร์แบบเข้ม เป็นแรงที่ดึงดูดอนุภาคควาร์ก ให้รวมกันอยู่ได้โปรตรอนและนิวตรอน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของอะตอม
***ปัจจุบันทฤษฎีที่เราใช้อธิบายแรงโน้มถ่วงคือ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ซึ่งค้นพบโดย อัลเบอร์ต ไอน์สไตน์
ปัญหาใหญ่อีกอย่างของทฤษฎีเอกภพคู่ขนานคือ การทดสอบทฤษฎี โดยเฉพาะทฤษฎีที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากทฤษฎีสตริง เพราะตามทฤษฎีแล้ว การที่จะเห็นมิติพิเศษอื่นๆที่มากกว่า 4 นั้น จะต้องอาศัยพลังงานสูงมากๆ และอาจจะต้องใช้เทคโนโลยี ที่สูงกว่าที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดีนักฟิสิกส์หลายๆคนเชื่อว่า เราอาจจะตรวจพบสัญญาณจากมิติที่ห้า จากการทดลองโดยเครื่องเร่งอนุภาค Large Hadron Collider (LHC) ที่ห้องปฏิบัติการ CERN ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นอกจากนี้แล้วการศึกษาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่เรียกว่า
Cosmic Microwave Background (CMB) ก็อาจจะทดสอบทฤษฎี Bubble Universe ได้ว่าน่าเชื่อถือหรือไม่
- มีตั้งแต่2กลุ่มขึ้นไป
- เมื่อลากเส้นตัดที่90องศา เส้นต้องตั้งฉากกันทั้งหมด
- เหมือนหรือไม่เหมือนก็ได้
- เส้นจะยาวเท่ากันหรือไม่เท่ากันก็ได้
- ต้องอยู่บนระนาบเดียวกัน
- ช่องว่าระหว่าเส้นต้องเท่ากันเสมอ
- อาจเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้งก็ได้
2.ขนานทางปรัชญา...จะเป็นความรู้สึกของการใช้คำว่าคู่ขนาน เช่น พรรคการเมืองคู่ขนาน(น่าจะหมายถึงพรรคการเมืองที่มีความคิดเห็นที่ไม่สามารถบรรจบกันได้) อาจเป็นความหมายของคูขนานในเชิงลบ
สรุปทฤษฏีคู่ขนาน ของดร. อรรถกฤต ฉัตรภูติ
1. Quantum parallel universe ซึ่งกล่าวว่าอาจจะมีเอกภพอื่นๆ ซึ่งมี กฎทางฟิสิกส์ และ ค่าคงที่ต่างๆเหมือนกับเอกภพที่เราอยู่ทุกประการ แต่อาจจะอยู่ในสถานะที่ต่างกัน และ เอกภพคู่ขนานเหล่านี้ไม่สามารถที่จะติดต่อกันได้ ในโลกของควอนตัมซึ่งเป็นโลกของความน่าจะเป็น สถานะที่ต่างกันออกไป ในแต่ละเอกภพจะสัมพันธกัน โดยกระบวนการทางควอนตัมที่เรียกว่า Quantum superposition และ ความสัมพันธ์นี้จะสิ้นสุดลง เมื่อมีการเลือกทางใดทางหนึ่งของความน่าจะเป็นนั้น ซึ่งหลังจากที่มีการเลือกเกิดขึ้นแล้ว เอกภพคู่ขนานทั้งสองจะไม่สัมพันธ์กันอีกเลย....มีความน่าจะเป็น เมื่อความน่าจะเป็นเกิดขึ้น เอกภพคู่ขนานทั้งจะไม่สัมพันธ์กันอีกเลย
2. Inflation multi-universes เป็นแนวคิดที่พัฒนามาจากการศึกษาจักรวาลวิทยา (cosmology) หรือ การศึกษาเกี่ยวกับการกำเนิด และ วิวัฒนาการของเอกภพ หลักฐานที่เราได้จากคลื่นแม่ไมโครเวฟพื้นหลัง (Cosmic Microwave Background Radiation) ทำให้เชื่อว่าเอกภพที่เราอาศัยอยู่ ณ ขณะนี้ มีวิวัฒนาการมาจากการระเบิดครั้งใหญ่ที่เรียกว่า บิกแบง (Big Bang)
3.แนวคิดเรื่องเอกภพคู่ขนานในกลุ่มนี้ เป็นแนวคิดที่ได้มาจากทฤษฎีเส้นเชือก หรือ
String Theory ซึ่งเป็นทฤษฎีที่สร้างขึ้นมาเพื่อที่จะอธิบายธรรมชาติของแรงโน้มถ่วงในระดับพลังงานสูงๆ ก่อนอื่นต้องขออธิบายว่าในวิชาฟิสิกส์เราแบ่งแรงในธรรมชาติออกเป็น 4 ชนิด คือ
3.1แรงโน้มถ่วง ซึ่งเป็นแรงที่ดึงดูดมวลสารและพลังงานเข้าด้วยกัน เช่น แรงที่ดึงดูดดวงจันทร์เข้ากับโลกเป็นต้น
3.2แรงแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นแรงที่กระทำกับอนุภาคที่มีประจุ เช่น แรงที่ดูดอิเล็กตรอนให้วิ่งวนรอบนิวเคลียส เป็นแรงที่อยู่เบื้องหลังปฏิกิริยาเคมีทั้งหมด รวมถึงระบบประสาทในสิ่งมีชีวิต
3.3แรงนิวเคลียร์แบบอ่อน เป็นแรงที่เกิดในการสลายตัวของธาตุกัมมันตรังสี และปฏิกิริยานิวเคลียร์บนดวงอาทิตย์เป็นต้น
3.4สี่แรงนิวเคลียร์แบบเข้ม เป็นแรงที่ดึงดูดอนุภาคควาร์ก ให้รวมกันอยู่ได้โปรตรอนและนิวตรอน ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของอะตอม
***ปัจจุบันทฤษฎีที่เราใช้อธิบายแรงโน้มถ่วงคือ ทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป ซึ่งค้นพบโดย อัลเบอร์ต ไอน์สไตน์
ปัญหาใหญ่อีกอย่างของทฤษฎีเอกภพคู่ขนานคือ การทดสอบทฤษฎี โดยเฉพาะทฤษฎีที่ได้แรงบันดาลใจ มาจากทฤษฎีสตริง เพราะตามทฤษฎีแล้ว การที่จะเห็นมิติพิเศษอื่นๆที่มากกว่า 4 นั้น จะต้องอาศัยพลังงานสูงมากๆ และอาจจะต้องใช้เทคโนโลยี ที่สูงกว่าที่เรามีอยู่ในปัจจุบัน อย่างไรก็ดีนักฟิสิกส์หลายๆคนเชื่อว่า เราอาจจะตรวจพบสัญญาณจากมิติที่ห้า จากการทดลองโดยเครื่องเร่งอนุภาค Large Hadron Collider (LHC) ที่ห้องปฏิบัติการ CERN ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ นอกจากนี้แล้วการศึกษาคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า ที่เรียกว่า
Cosmic Microwave Background (CMB) ก็อาจจะทดสอบทฤษฎี Bubble Universe ได้ว่าน่าเชื่อถือหรือไม่
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
วันอังคารที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2550
คู่ขนาน
คลังข้อความขนานคือข้อความต้นฉบับและข้อความภาษาอื่นๆ ที่แปลมาจากข้อความต้นฉบับ ในคลังข้อความขนานระบุส่วนตรงกันมีการระบุประโยคที่ตรงกันของคู่ข้อความที่ต่างภาษา ดังตัวอย่างในตารางด้านล่าง
ข้อความต้นฉบับภาษาอังกฤษ กับ ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทย
แรงขนาน หมายถึงแรงที่มีทิศขนานกัน แรงขนานมี 2 ประเภท คือ
แรงขนานพวกเดียวกันคือแรงขนานที่มีทิศทางเดียวกัน
แรงขนานต่างพวกกันคือแรงขนานที่มีทิศทางตรงข้ามกัน
แบบทดสอบคู่ขนาน หมายถึง แบบทดสอบสองฉบับที่มีเนื้อหา ความยากง่าย อำนาจจำแนก คะแนนเฉลี่ย คะแนนเบี่ยงเบนมาตรฐานเหมือนกัน และจำนวนข้อเท่ากัน นำไปสอบกับกลุ่มตัวอย่างทั้งสองฉบับ แล้วหาค่าสหสัมพันธ์ระหว่างคะแนนทั้งสองฉบับนี้ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่คำนวณได้นี้ก็คือความเชื่อมั่นของแบบทดสอบนั่นเอง
เส้นขนาน คือ เส้นตรงสองเส้นที่อยู่บนระนาบเดียวกัน ไม่ตัดกัน และมีระยะห่างระหว่างเส้นทั้งสองเท่ากันเสมอ เส้นขนานอาจเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้งก็ได้ เช่น รางรถไฟ ขอบยางในรถยนต์
เส้นตรงที่ตั้งฉากกับเส้นตรงเดียวกันย่อมขนานกัน และเส้นตรงที่ขนานกับเส้นตรงเดียวกันย่อมขนานกัน
ข้อความต้นฉบับภาษาอังกฤษ กับ ข้อความที่แปลเป็นภาษาไทย
แรงขนาน หมายถึงแรงที่มีทิศขนานกัน แรงขนานมี 2 ประเภท คือ
แรงขนานพวกเดียวกันคือแรงขนานที่มีทิศทางเดียวกัน
แรงขนานต่างพวกกันคือแรงขนานที่มีทิศทางตรงข้ามกัน
แบบทดสอบคู่ขนาน หมายถึง แบบทดสอบสองฉบับที่มีเนื้อหา ความยากง่าย อำนาจจำแนก คะแนนเฉลี่ย คะแนนเบี่ยงเบนมาตรฐานเหมือนกัน และจำนวนข้อเท่ากัน นำไปสอบกับกลุ่มตัวอย่างทั้งสองฉบับ แล้วหาค่าสหสัมพันธ์ระหว่างคะแนนทั้งสองฉบับนี้ สัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ที่คำนวณได้นี้ก็คือความเชื่อมั่นของแบบทดสอบนั่นเอง
เส้นขนาน คือ เส้นตรงสองเส้นที่อยู่บนระนาบเดียวกัน ไม่ตัดกัน และมีระยะห่างระหว่างเส้นทั้งสองเท่ากันเสมอ เส้นขนานอาจเป็นเส้นตรงหรือเส้นโค้งก็ได้ เช่น รางรถไฟ ขอบยางในรถยนต์
เส้นตรงที่ตั้งฉากกับเส้นตรงเดียวกันย่อมขนานกัน และเส้นตรงที่ขนานกับเส้นตรงเดียวกันย่อมขนานกัน
วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2550
วันศุกร์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2550
ลองมองด้วยแว่นตา3มิติดู
ภาพที่ผมเห็นจากการมองด้วยแว่น3มิติ...ผมมองเห็นเป็นภาพดังนี้
เหตุผลที่เลือใช้แว่น3มิติในการมอง...เพราว่าผมได้มองไปยังการทำงานของระดับสายตาที่สามารถอ่านภาพจากจอ2จอและต่อกันในสมองเพื่อให้คนเรารู้ได้....การมองของสายตาไม่ใช่แค่วัดว่ามองภาพชัดได้แค่อย่างเดียว แต่สายตายังช่วยให้มองเห็นถึงระดับของความใกล้ไกลของวัตถุได้อีกด้วย...ไม่เชื่อลองปิดตาข้างเดียวแล้วลองทำอะไรดู และการที่ใช้กระดาษแก้ว2สีทำเลนส์แว่นตาดู ก็พบว่าคู่สีแดง-น้ำเงินเวิร์คกว่าคู่สีแดง-เขียว โดยยิ่งค่าความโปร่งแสงของตัวอักษรยิ่งน้อยเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งมองเห็นตัวอักษรเพียงตัวเดียวมากยิ่งขึ้น ผมจึขอเลือกใช้คู่แดง-น้ำเงิน
งานคู่ขนาน
อันนี้ลองนำคำที่มีลักษณะเหมือนกัน โดยมีคำว่า ฉัน รัก เธอ ......ซึ่งเป็นปฏิกิริยาระหว่าง2บุคลคล้ายกับเส้นทางคู่ขานที่ลิขิตให้เขามาเจอกัน เมื่อมองเห็นสองสิ่งพร้อมกัน ฉันรักเธอและฉันก็รู้ว่าเธอรักฉัน เธอรักฉันและเธอก็รู้ว่าฉันรักเธอ ผลสรุปของงานออกแบบนี้จึงออกมาเป็นคำ2ประโยคถูกสร้างมาโดยใช้พจน์คล้ายๆกัน แต่จะเปลี่ยนตำแหน่งสลับกัน ซึ่งเกิดจากคำที่ใช้ระหว่างคนสองคน
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
คู่ขานของตัวอักษรเมื่อส่องกระจก
งานออกแบบตัวอักษรเมื่อนำตัวอักษรภาษาไทยไปส่องกระจกเพื่อตอบโจทย์ Sequenceแบบคู่ขนาน ซึ่งเป็นการสันนิษฐานว่าเมื่อเราสามารถมองเห็นคู่โลกขนานและโลกความจริง.....ในที่นี้เปรียบเป็นโลกเรากับโลกที่อยู่ในกระจก ว่าตัวอักษรที่เกิดขึ้นจากการมองเห็นพร้อมกันทั้งสองโลกจะเกิดอะไรขึ้น คล้ายกับทฤษฎีเห็นเงาสะท้อนจากในน้ำ
โดยในที่นี้จะยกก.ไก่มาเป็นตัวเริ่มต้นของการออกแบบเพราะก.ไก่เป็นพยัญชนะตัวแรกของอักษรไทย
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
วันจันทร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2550
1.1นำSequenceของบุ๊คมาออกแบบ
-นำกระดาษมาตัดเป็นรูปลายก้นหอย โดยเนื้อที่กระดาฯเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าโดยตัดจากด้านนอก และตัดเข้าหาด้านใน ซึ่งรูปทรงที่ได้มาจะเป็นรูปเสมือนปิรามิด โดยสิ่งที่เราตัดครั้งแรกจะอยู่ด้านล่างสุดและสิ่งที่เราตัดครั้งสุทายจะเป็นแกนกลาง(ดังภาพ) เมื่อเรา
แบบที่1นำสิ่งที่เล็กที่สุดอยู่ข้างบนโดยยึดเอาหลักของก้นหอยและวงปี ที่ขนาดเล็กสุดจะอยู่ข้างบนหรือข้างใน โดยสิ่งที่ทำนี้เป็นแบบร่าง
แบบที่2ขนาดของทุกสิ่งจะเท่ากัน ซึ่งไม่เหมือนกับแบบแรก ดดยแบบที่2นี้จะอิงตามหลักของหนังสือที่ทุกหน้ามีขนาดเท่ากัน เวลามองจากทางไหนก็ตามแต่ จะเห็นสิ่งที่อยู่ข้างบนก่อน โดยสิ่งที่อยู่ข้างบนนี้จะเป็นสิ่งที่เริ่มไปสู่สิ่งที่สองและไปสูสิ่งอื่นเรื่อยๆตามลำดับ
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
Sequenceของบุ๊ค
พอดีผมได้เห็นงานของบุ๊คไปสอดคล้องกับบทความหนึ่ง ที่เกี่ยวกับฮวงจุ้ย จักรวาล และอะตอม
บทความนั้นกล่าวไว้ดังนี้......ในปรัชญาวิชาฮวงจุ้ยของจีนยังมีคำกล่าวที่สอดคล้องกันข้อความข้างต้น โดยพูดไว้ว่า “ทุกส่วนที่เล็กที่สุดเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์ของจักรวาล” เราดูตัวอย่างง่ายๆ โดยสิ่งที่ใหญ่ที่สุดก็คือตัวจักรวาลเอง มีดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลาง และมีดาวเคราะห์ต่างๆโคจรล้อมรอบ ส่วนสิ่งที่เล็กที่สุด ก็คือ อะตอม ซึ่งมีอิเล็คตรอนเป็นจำนวนมากหมุนรอบโปรตอนที่เป็นแกนกลาง จะสังเกตได้ว่ามีโครงสร้างหน้าตาที่เหมือนกัน
อิเล็กตรอนจะมีลักษณะการวิ่งหมุนแบบวนซ้าย เมื่ออะตอมเกาะกลุ่มรวมตัวกันเป็นโมเลกุล โครงสร้างที่เกิดขึ้นก็เวียนซ้ายด้วย เมื่อประกอบรวมกันกลายเป็นสสาร จึงได้มีรูปแบบที่วนซ้ายไปด้วย ดังเช่น เมื่อประกอบขึ้นมาเป็นยีนหรือดีเอนเอในร่างกาย เส้นดีเอนเอทั้งหมดก็จะพันกันเป็นเกลียวแบบเวียนซ้าย โดยมนุษย์เราได้ยีนหนึ่งชุดจากพ่อและอีกชุดหนึ่งจากแม่มาผสมกัน ตัวดีเอนเอ จะพันกันเป็นเกลียวก่อตัวเจริญเติบโตขยายตัวเป็นอวัยวะต่างๆ สร้างขึ้นมาเป็นร่างกายของเรา ระบบกล้ามเนื้อและอวัยวะต่าง ๆ ก็มีลักษณะในการวนซ้าย ดังจะสังเกตว่า หัวใจซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของระบบเลือดจะอยู่ซีกซ้ายส่งเลือดไปทางขวา ส่วนกระเพาะอาหารซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของระบบย่อยก็จะอยู่ด้านซ้าย เมื่อเชื่อมต่อไปยังลำไส้เล็ก ก็มีการขดเวียนจากซ้ายไปขวาตามเข็มนาฬิกาเช่นเดียวกัน
ลองสังเกตลายเส้นขนบนตัวของท่านก็หมุนวนเป็นวงกลมจากซ้ายไปขวา
ขึ้นมาจนถึงจุดสุดยอดตรงขวัญบนศีรษะ นี่คือลายของพลังงานเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีขวัญ และคนร้อยละ 80-90 ทั่วโลกขวัญจะวนซ้ายไปขวาเสมอ
รวมไปถึงลายก้นหอยบนนิ้วมือก็จะวนซ้ายเสมอเวลาไปเที่ยวทะเลคุณสังเกตดู หอยเกือบทุกตัวในโลกก้นหอยจะวนซ้าย นานๆจะเจอแบบที่วนขวาในสมัยโบราณถ้าพบหอยสังข์ที่ก้นหมุนวนขวาเมื่อไหร่เขาถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะเอาไปถวายในหลวงเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุมงคลในงานพระราชพิธีต่าง ๆ เพราะเชื่อว่ามีพลังพิเศษสามารถหมุนต้านพลังจักรวาลของโลกได้
โดยสิ่งต่างๆที่จะนำไปออกแบบก็คือลายก้นหอย ซึ่งเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับงานของบุ๊คได้ดี
ซึ่งในสิ่งต่างๆรอบตัวก็มีลายก้นหอยอยู่ เช่น ลายนิ้วมือ,ขวัญบนศีรษะ,วงปี,....,วงโคจรของดาวเคราะห์,จักรวาล
บทความนั้นกล่าวไว้ดังนี้......ในปรัชญาวิชาฮวงจุ้ยของจีนยังมีคำกล่าวที่สอดคล้องกันข้อความข้างต้น โดยพูดไว้ว่า “ทุกส่วนที่เล็กที่สุดเป็นตัวแทนที่สมบูรณ์ของจักรวาล” เราดูตัวอย่างง่ายๆ โดยสิ่งที่ใหญ่ที่สุดก็คือตัวจักรวาลเอง มีดวงอาทิตย์อยู่ตรงกลาง และมีดาวเคราะห์ต่างๆโคจรล้อมรอบ ส่วนสิ่งที่เล็กที่สุด ก็คือ อะตอม ซึ่งมีอิเล็คตรอนเป็นจำนวนมากหมุนรอบโปรตอนที่เป็นแกนกลาง จะสังเกตได้ว่ามีโครงสร้างหน้าตาที่เหมือนกัน
อิเล็กตรอนจะมีลักษณะการวิ่งหมุนแบบวนซ้าย เมื่ออะตอมเกาะกลุ่มรวมตัวกันเป็นโมเลกุล โครงสร้างที่เกิดขึ้นก็เวียนซ้ายด้วย เมื่อประกอบรวมกันกลายเป็นสสาร จึงได้มีรูปแบบที่วนซ้ายไปด้วย ดังเช่น เมื่อประกอบขึ้นมาเป็นยีนหรือดีเอนเอในร่างกาย เส้นดีเอนเอทั้งหมดก็จะพันกันเป็นเกลียวแบบเวียนซ้าย โดยมนุษย์เราได้ยีนหนึ่งชุดจากพ่อและอีกชุดหนึ่งจากแม่มาผสมกัน ตัวดีเอนเอ จะพันกันเป็นเกลียวก่อตัวเจริญเติบโตขยายตัวเป็นอวัยวะต่างๆ สร้างขึ้นมาเป็นร่างกายของเรา ระบบกล้ามเนื้อและอวัยวะต่าง ๆ ก็มีลักษณะในการวนซ้าย ดังจะสังเกตว่า หัวใจซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของระบบเลือดจะอยู่ซีกซ้ายส่งเลือดไปทางขวา ส่วนกระเพาะอาหารซึ่งเป็นจุดตั้งต้นของระบบย่อยก็จะอยู่ด้านซ้าย เมื่อเชื่อมต่อไปยังลำไส้เล็ก ก็มีการขดเวียนจากซ้ายไปขวาตามเข็มนาฬิกาเช่นเดียวกัน
ลองสังเกตลายเส้นขนบนตัวของท่านก็หมุนวนเป็นวงกลมจากซ้ายไปขวา
ขึ้นมาจนถึงจุดสุดยอดตรงขวัญบนศีรษะ นี่คือลายของพลังงานเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีขวัญ และคนร้อยละ 80-90 ทั่วโลกขวัญจะวนซ้ายไปขวาเสมอ
รวมไปถึงลายก้นหอยบนนิ้วมือก็จะวนซ้ายเสมอเวลาไปเที่ยวทะเลคุณสังเกตดู หอยเกือบทุกตัวในโลกก้นหอยจะวนซ้าย นานๆจะเจอแบบที่วนขวาในสมัยโบราณถ้าพบหอยสังข์ที่ก้นหมุนวนขวาเมื่อไหร่เขาถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ จะเอาไปถวายในหลวงเพื่อนำไปใช้เป็นวัตถุมงคลในงานพระราชพิธีต่าง ๆ เพราะเชื่อว่ามีพลังพิเศษสามารถหมุนต้านพลังจักรวาลของโลกได้
โดยสิ่งต่างๆที่จะนำไปออกแบบก็คือลายก้นหอย ซึ่งเป็นสิ่งที่เชื่อมโยงกับงานของบุ๊คได้ดี
ซึ่งในสิ่งต่างๆรอบตัวก็มีลายก้นหอยอยู่ เช่น ลายนิ้วมือ,ขวัญบนศีรษะ,วงปี,....,วงโคจรของดาวเคราะห์,จักรวาล
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
http://seedang.com/stories/10378
http://seedang.com/stories/9427
เวปที่เข้าไปดูคลปตัวอย่างข้องต้น.....ผมลองเอามาใส่แล้ว เวป9427 มีปัญหาครับไม่สามารถอัฟโหลดได้ ผมเคยลองดันทุรังทำไปแล้วการจัดวางของหน้าBlogก็สลับกันมั่วไปหมดเลยครับ
http://seedang.com/stories/9427
เวปที่เข้าไปดูคลปตัวอย่างข้องต้น.....ผมลองเอามาใส่แล้ว เวป9427 มีปัญหาครับไม่สามารถอัฟโหลดได้ ผมเคยลองดันทุรังทำไปแล้วการจัดวางของหน้าBlogก็สลับกันมั่วไปหมดเลยครับ
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
Sequence ที่ลองออกแบบดู
ได้นำเอาคลิปที่มีอยู่แล้วมาลองตัดต่อในหัวข้อ"อุบัติเหตุ" ซึ่งเป็นตัวทดลองที่จะเอาไปงานออกแบบเพราะคลิปตามเวปเหมือนเครื่องมือสะดวกใช้ ที่มีปริมาณมาก และส่วนมากถ่ายโดยความต้องใจ แต่จะได้ผลลัพธ์เป็นความไม่ตั้งใจแทน ซึ่งจะของหยิบเอาบางส่วนมาลองเปรียบเทียบดู
เมื่อได้ข้อมูลตัวอย่างมาแล้วก็จัดการหาความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องโดยแต่ละเหตุการณ์จะมีลำดับที่เหมือนกัน ดังนี้คือ
- มีการขับเคลื่อนของรถยนต์ที่ดูแล้วไม่น่าจะมีอุบัติเหตุ
- มีรถคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ...โดยการชน
- อุบัติเหตุที่จบลง
***ทำไมถึงเลือกเอาอุบัติเหตุ เพราะถ้าเราเกิดอุบัติเหตุสิ่งที่จะเกิดก็จะเกิดความสูญเสีย คงไม่มีใครอยากให้เกิดและถ้าคนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในการแสดงได้นั้นต้องยอมเสี่ยง เพราะดังนั้นคงไม่มีใครหน้าไหนทำอุบัติเหตุเล่นๆเพื่อโปรโมทตัวเองหรอก
การดำเนินของอุบัติเหตุทั้ง 2 ก่อให้เกิดทฤษฎีของ Sequenceคู่ขนานในรูปแบบของเรื่องที่เหมือนกัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะที่ไม่ได้มีใครกำกับไว้
เมื่อได้ข้อมูลตัวอย่างมาแล้วก็จัดการหาความเชื่อมโยงที่เกี่ยวข้องโดยแต่ละเหตุการณ์จะมีลำดับที่เหมือนกัน ดังนี้คือ
- มีการขับเคลื่อนของรถยนต์ที่ดูแล้วไม่น่าจะมีอุบัติเหตุ
- มีรถคนหนึ่งเกิดอุบัติเหตุ...โดยการชน
- อุบัติเหตุที่จบลง
***ทำไมถึงเลือกเอาอุบัติเหตุ เพราะถ้าเราเกิดอุบัติเหตุสิ่งที่จะเกิดก็จะเกิดความสูญเสีย คงไม่มีใครอยากให้เกิดและถ้าคนที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุในการแสดงได้นั้นต้องยอมเสี่ยง เพราะดังนั้นคงไม่มีใครหน้าไหนทำอุบัติเหตุเล่นๆเพื่อโปรโมทตัวเองหรอก
การดำเนินของอุบัติเหตุทั้ง 2 ก่อให้เกิดทฤษฎีของ Sequenceคู่ขนานในรูปแบบของเรื่องที่เหมือนกัน ซึ่งเป็นเหตุการณ์เฉพาะที่ไม่ได้มีใครกำกับไว้
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
วันพฤหัสบดีที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
Sequence
นำลับดับความสำพันธ์(เซน)โดยให้ความสำคัญกับคนที่สนิทที่สุดในห้องก่อน
กำหนดความสำญโดยให้คนที่สนิทที่สุดเป นผู้เรื่มในช่องแรก และคนสนิทน้อยที่สุดจะเเป็นช่องสุดท้าย
นำข้อมูลของเพื่อนที่สอบถามโดยกำหนดหัวข้อ"วันที่หยุด" โดยข้อมูลที่ออกมาจะเป็นการสอบถามโดยใช้หลักข้อมูลโดยทั่วไป การสอบถามครั้งนี้อาจเปลี่ยนแปลงในภายบหลัง โดยเรียงลำตับจากเริ่มตื่นนอน จนถึงเวลานอนของทุกๆคน
นำข้อมูลของทั้ง4คนมาจัดเรียงเพื่อเปรียบเทียบ
นำข้อมูลที่มีมาจัดเรียงใหม่โดยกำหนดสีเพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงของSequenceเข้าด้วยกัน
นำข้อมูลได้ไปออกแบบโดยอาจจำเรียงตามนี้หรืออาจมีการเปลี่ยนแปลงภายหลัง โดยกำหนดให้ช่องสี่เลรายมแทนภาพเคลื่อนไหวในเวลานั่นๆ
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
Sequence ใหม่ที่เกิดจากการเรียงตัวของคู่ขนาน
คำว่า"คู่ขนาน"ในความเป็นจริงนั้น หมายถึง การเรียงขนานกันของอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แค่เส้นหรือวัตถุ โดยไม่มีจุดเริ่มและจุดจบเดียวกันแต่ต้องดำเนินไปด้วยกัน คล้ายกับฝาแฝดมาก
การโลกคู่ขนานนั้นมาอยู่จริง จึงก่อให้เกิดทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวกับคู่ขนานตามมา
1. ญาณหยั่งรู้ เพราะเราได้อับอิทธิพลจากจากตัวเราอีกคนที่อยู่ในดลกคู่ขนานมิติอื่น คล้ายประตูการเวลาของโดเรมอนที่เปิดไปแล้วจะเจอตัวเราหลายๆคนในยุคสมัยที่ต่างกัน....อีกทฤษฎีเชื่อว่าตัวเราแต่ละคนในโลกคู่ขนานที่ต่างกันจะมีอุปนิสัยต่างๆกันออกไป
2. ชาติที่แล้ว...หลายคนอาจคุ้นเคยกับสิ่งที่มำมาเพราะได้รับอิทธิพลจากชาติที่แล้ว ตัวตนในชาติที่แล้วก็อาจเป็นสาเหตุในอุปนิสัยในปัจจุบันได้เป็นต้น
เรื่องทฤษฎีคู่ขนานนนี้ยังมีอีก
เรื่องที่จะทำการเรียงตัวของSequenceใหม่ที่เกิดจากทฤษฎีคู่ขนาน ถ้าเราเปรียยบให้ A,B,C,D แทนเส้นขนาน เราจะได้สมการดังนี้
------------------- A
------------------- B
------------------- C
------------------- D
โดยเราจะเปรียบได้กับจอโทรทัศน์ช่องเล็กๆ 4 ช่อง เมื่อมีการดำเนินของSequenceไปเรื่อยๆ สิ่งที่ได้ผลกลับมาก็จะเกิดSequenceใหม่ อันเกิดจากเหตจุการณ์ทั้ง4 ที่เกิดขึ้น
การโลกคู่ขนานนั้นมาอยู่จริง จึงก่อให้เกิดทฤษฎีต่างๆที่เกี่ยวกับคู่ขนานตามมา
1. ญาณหยั่งรู้ เพราะเราได้อับอิทธิพลจากจากตัวเราอีกคนที่อยู่ในดลกคู่ขนานมิติอื่น คล้ายประตูการเวลาของโดเรมอนที่เปิดไปแล้วจะเจอตัวเราหลายๆคนในยุคสมัยที่ต่างกัน....อีกทฤษฎีเชื่อว่าตัวเราแต่ละคนในโลกคู่ขนานที่ต่างกันจะมีอุปนิสัยต่างๆกันออกไป
2. ชาติที่แล้ว...หลายคนอาจคุ้นเคยกับสิ่งที่มำมาเพราะได้รับอิทธิพลจากชาติที่แล้ว ตัวตนในชาติที่แล้วก็อาจเป็นสาเหตุในอุปนิสัยในปัจจุบันได้เป็นต้น
เรื่องทฤษฎีคู่ขนานนนี้ยังมีอีก
เรื่องที่จะทำการเรียงตัวของSequenceใหม่ที่เกิดจากทฤษฎีคู่ขนาน ถ้าเราเปรียยบให้ A,B,C,D แทนเส้นขนาน เราจะได้สมการดังนี้
------------------- A
------------------- B
------------------- C
------------------- D
โดยเราจะเปรียบได้กับจอโทรทัศน์ช่องเล็กๆ 4 ช่อง เมื่อมีการดำเนินของSequenceไปเรื่อยๆ สิ่งที่ได้ผลกลับมาก็จะเกิดSequenceใหม่ อันเกิดจากเหตจุการณ์ทั้ง4 ที่เกิดขึ้น
วันจันทร์ที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
สูตรSequenceในเลขคณิต
ลำดับ คือ ฟังก์ชันที่มีโดเมนของเซตเป็นจำนวนเต็มบวก และถ้าลำดับในเซต A คือ ลำดับที่มีเรนจ์เป็นสับเซต ของ A ถ้าโดเมนมีจำนวนจำกัด เรียกว่า ลำดับจำกัด ถ้าโดเมนมีจำนวนไม่จำกัด เรียกว่า ลำดับอนันต์ ถ้าให้ f เป็นเซตของจำนวนเต็มบวกไปยังเซตของจำนวนจริง เราจะเรียก f(1),f(2),f(3),... ว่า ลำดับของจำนวนจริง
ลำดับเลขคณิต (arithmetic sequence หรือ arithmetic progression)
บทนิยาม ลำดับเลขคณิต คือลำดับที่มีผลต่างระหว่างพจน์ที่ n+1 กับพจน์ที่ n มีค่าคงตัว ค่าคงตัวนี้เรียกว่า ผลต่างร่วม (common diferent)
สูตร an = a1 + (n − 1)d
ลำดับเรขาคณิต (geometric sequence or geometric progress)
บทนิยาม ลำดับเรขาคณิตคือ อัตราส่วนระหว่างพจน์ที่ n +1 กับ พจน์ที่ n มีค่าคงตัว ค่าคงตัวนี้เรียกว่าอัตราส่วนร่วม ( common ratio )
สูตร an = a1 * rn − 1
ลำดับฮาร์มอนิก (harmonic sequence)
บทนิยามลำดับฮาร์มอนิกหมายถึง ลำดับที่มีพจนืแต่ละพจน์เป็นส่วนกลับของพจน์ในลำดับเลขคณิต
ลำดับสลับ (alternating sequence)
ลำดับสลับคือ ลำดับซึ่งพจน์ที่ n กับพจน์ที่ n + 1 มีเครื่องหมายตรงกันข้ามกัน
ลำดับฟีโบนักชี (Fibonacci sequence)
ลำดับฟีโบนักชีคือลำดับของจำนวนเต็มบวก ซึ่งมีสมบัติว่า an
ลำดับโคชี (Cauchy sequence)
ลำดับโคชีคือลำดับซึ่ง | an - an − 1 |มีค่าเข้าใกล้ 0 เมื่อ n มีค่ามากขึ้นโดยไม่มีที่สิ้นสุด
ลำดับเลขคณิต (arithmetic sequence หรือ arithmetic progression)
บทนิยาม ลำดับเลขคณิต คือลำดับที่มีผลต่างระหว่างพจน์ที่ n+1 กับพจน์ที่ n มีค่าคงตัว ค่าคงตัวนี้เรียกว่า ผลต่างร่วม (common diferent)
สูตร an = a1 + (n − 1)d
ลำดับเรขาคณิต (geometric sequence or geometric progress)
บทนิยาม ลำดับเรขาคณิตคือ อัตราส่วนระหว่างพจน์ที่ n +1 กับ พจน์ที่ n มีค่าคงตัว ค่าคงตัวนี้เรียกว่าอัตราส่วนร่วม ( common ratio )
สูตร an = a1 * rn − 1
ลำดับฮาร์มอนิก (harmonic sequence)
บทนิยามลำดับฮาร์มอนิกหมายถึง ลำดับที่มีพจนืแต่ละพจน์เป็นส่วนกลับของพจน์ในลำดับเลขคณิต
ลำดับสลับ (alternating sequence)
ลำดับสลับคือ ลำดับซึ่งพจน์ที่ n กับพจน์ที่ n + 1 มีเครื่องหมายตรงกันข้ามกัน
ลำดับฟีโบนักชี (Fibonacci sequence)
ลำดับฟีโบนักชีคือลำดับของจำนวนเต็มบวก ซึ่งมีสมบัติว่า an
ลำดับโคชี (Cauchy sequence)
ลำดับโคชีคือลำดับซึ่ง | an - an − 1 |มีค่าเข้าใกล้ 0 เมื่อ n มีค่ามากขึ้นโดยไม่มีที่สิ้นสุด
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
วันอาทิตย์ที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2550
เรื่องที่จะทำ.....ภาคต่อ
เรื่องที่จะทำนี้ดูเหมือนว่าจะมีหลายคนที่ไม่เข้าใจผม
ผมเลือกการสร้างลำดับใหม่ คือกำหนดตัวเลือกใหม่จากสิ่งที่มีอยู่เดิม
ก็คือการจัดลำดับของSequenceของหนังลือใหม่โดยอิงจากสิ่งที่มีอยู่เดิม โดยผมเปรียบจำนวนหน้าของหนังสือเป็นSequence และผมทำLinkใหม่ โดยจะออกแบบLinkให้อยู่ภายใต้การควบคุมของผมซึ่งเป็นการกระทำที่มีเงื่อนไข
ผมเลือกการสร้างลำดับใหม่ คือกำหนดตัวเลือกใหม่จากสิ่งที่มีอยู่เดิม
ก็คือการจัดลำดับของSequenceของหนังลือใหม่โดยอิงจากสิ่งที่มีอยู่เดิม โดยผมเปรียบจำนวนหน้าของหนังสือเป็นSequence และผมทำLinkใหม่ โดยจะออกแบบLinkให้อยู่ภายใต้การควบคุมของผมซึ่งเป็นการกระทำที่มีเงื่อนไข
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
UndoในSequenceช่วยSequenceได้จริงเหรอ?
ปัญหานี้เนปัฅญหาโลกแตกที่วิตกของห้องอยู่นานแต่พอที่จะสรุปได้ดังคำกล่าวที่ว่าไว้ "เรื่องมี2ด้าน" อะไรล่ะที่มี2 ด้าน ก็undoไงมันมีประโยชน์ตรงที่ทำให้ผู้เห็นจิตนาการได้อย่างมีระบบ คือเหมากับทำงานอย่างมีขึ้นตอน เพื่อที่จะกลับไปแก้ไขเรื่องเก่าๆได้ (finish Sequence)ซึ่งจะมีประโยชน์ในการทำให้เกิดความสำเร็จที่ชัดเจน คือรู้ปลายทางว่างานของเราจะออกเป็นแบบไหน เป็นงานที่ไม่ต้องทดลองให้ยุ่งยาก ส่วนข้อเสียของการ undo ก็คือเราจะขาดความแปลกใหม่ในงานที่จะเกิดขึ้นเพราะว่างานที่ออกมานั้นจะมีลักษะเหมือนกันหมด คือ เป็นงานที่ซ้ำซาก ทำเหมือนๆกัน เพราะทุกคนถูกตั้งโปรแกรมให้ทำ และทำแบบเดียวกัน
ข้อคิด....ทำไมต้องไปแก้ในเมื่อมันเสร็จสิ้นแล้ว.....อันนี้ผมก็ว่ามี2ด้าน
คือแก้เพราะรู้ว่าผิด ไม่แก้เพราะจะได้ความแปลกใหม่....ซึ่งอันนี้จะกลายเป้นเรื่องของการได้มาซึ่งคุณสมบัติ
ข้อคิด....ทำไมต้องไปแก้ในเมื่อมันเสร็จสิ้นแล้ว.....อันนี้ผมก็ว่ามี2ด้าน
คือแก้เพราะรู้ว่าผิด ไม่แก้เพราะจะได้ความแปลกใหม่....ซึ่งอันนี้จะกลายเป้นเรื่องของการได้มาซึ่งคุณสมบัติ
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
วันอาทิตย์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2550
เรื่องที่จะทำ
การกำหนดเงื่อนไขของSequenceใหม่ ทำให้เกิดSequenceที่เรียงกันอยู่เกิดรูปประโยคใหม่ขึ้นมา
เมื่อวันอาทิตย์ผมได้ไปดู "สวยลากไส้" แหม!หนังเค้าดีจริงๆ เนื้อเรื่องเป็นSequenceแบบ 1-2-1-3-4-3-7-5-6-8-9 อะไรแบบนี้เซ่งมีการเรียงก่อนหน้าไม่เหมือนกัน และมีการกล่าวซ้ำไปซ้ำมา เหมาะกับการดู120บาทจริงๆ เหมือนโดนผีหลอกเอาตังเลย แต่ผมก็ยอมเสียตังให้กับสาวๆในเรื่องแทนที่จะดูผีมากกว่า.....ถ้ามีเวลาก็แวะไปดูนะ ไปดูผู้หญิงที่อยู่ในเรื่องนะอย่าดูผี อันนี้เน้นเลยนะ แล้วท่านจะพบกับฉาก.......ดูเองเหอะ...........เข้าเรื่องเลยดีกว่า ครั้งที่แล้วผมเสนอเรื่องการทำลายไป...แต่ก็นะ มันไม่ใช่การทำลาย มันคือการกำหนดเงื่อนไขใหม่ ผมก็เห็นด้วย เพราะถ้ากำหนดการเรียงของเรื่องไขแบบสวยลากไส้มันก็จะมีอะไรมากกว่าที่เราไปแค่1-10 เพราะSequenceนี้คงน่าเบื่อมาก ถ้ากำหนดเงื่อนไขในรูปแบบแบบเป็นBookหรือmediaมันก็น่าสนใจกว่านะ
Project : การกำหนดเงื่อนไขใหม่ของSequence
เมื่อวันอาทิตย์ผมได้ไปดู "สวยลากไส้" แหม!หนังเค้าดีจริงๆ เนื้อเรื่องเป็นSequenceแบบ 1-2-1-3-4-3-7-5-6-8-9 อะไรแบบนี้เซ่งมีการเรียงก่อนหน้าไม่เหมือนกัน และมีการกล่าวซ้ำไปซ้ำมา เหมาะกับการดู120บาทจริงๆ เหมือนโดนผีหลอกเอาตังเลย แต่ผมก็ยอมเสียตังให้กับสาวๆในเรื่องแทนที่จะดูผีมากกว่า.....ถ้ามีเวลาก็แวะไปดูนะ ไปดูผู้หญิงที่อยู่ในเรื่องนะอย่าดูผี อันนี้เน้นเลยนะ แล้วท่านจะพบกับฉาก.......ดูเองเหอะ...........เข้าเรื่องเลยดีกว่า ครั้งที่แล้วผมเสนอเรื่องการทำลายไป...แต่ก็นะ มันไม่ใช่การทำลาย มันคือการกำหนดเงื่อนไขใหม่ ผมก็เห็นด้วย เพราะถ้ากำหนดการเรียงของเรื่องไขแบบสวยลากไส้มันก็จะมีอะไรมากกว่าที่เราไปแค่1-10 เพราะSequenceนี้คงน่าเบื่อมาก ถ้ากำหนดเงื่อนไขในรูปแบบแบบเป็นBookหรือmediaมันก็น่าสนใจกว่านะ
Project : การกำหนดเงื่อนไขใหม่ของSequence
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
เรื่องของEqual
Equal คือ หนังภาคแรกที่ทำขึ้นของเรื่องนั้นๆ จะเป็นเรื่องแรกที่สร้างขึ้นมาก่อน.....อาจหมายถึงสิ่งที่เป็นปัจจุบัน
Sequal คือ หนังเรื่องที่มีเนื้อความต่อจากเรื่องแรกที่สร้าง ต้องสร้างเรื่องแรกก่อนถึงจะสร้างเรื่องนี้ได้.....อาจหมายถึงเรื่องที่เป็นอนาคต
Prequal คือ หนังเรื่องที่มีเนื้อความเกิดขึ้นก่อนแต่ถูกเท้าความทีหลัง ต้องสร้างเรื่องแรกก่อนถึงจะมีเรื่องนี้ได้..... อาจหมายถึงเรื่องที่เป็นอดีต
อดีต(Prequal)+ปัจจุบัน(Equal)+อนาคต(Sequal)
ถ้าอดีตไม่มี......ปัจจุบันก็จะไม่เกิดขึ้น
ถ้าไม่มีปัจจุบัน.....อนาคตก็จะไม่เกิดขึ้น
ดังนั้นถ้าไม่มีอดีต.....อนาคตก็จะไม่เกิดขึ้น
แต่ในทางกลับกันในทางภาพยนตร์.....ถ้าไม่Equal.....Sequal Prequalก็จะไม่เกิดขึ้น
Sequal คือ หนังเรื่องที่มีเนื้อความต่อจากเรื่องแรกที่สร้าง ต้องสร้างเรื่องแรกก่อนถึงจะสร้างเรื่องนี้ได้.....อาจหมายถึงเรื่องที่เป็นอนาคต
Prequal คือ หนังเรื่องที่มีเนื้อความเกิดขึ้นก่อนแต่ถูกเท้าความทีหลัง ต้องสร้างเรื่องแรกก่อนถึงจะมีเรื่องนี้ได้..... อาจหมายถึงเรื่องที่เป็นอดีต
อดีต(Prequal)+ปัจจุบัน(Equal)+อนาคต(Sequal)
ถ้าอดีตไม่มี......ปัจจุบันก็จะไม่เกิดขึ้น
ถ้าไม่มีปัจจุบัน.....อนาคตก็จะไม่เกิดขึ้น
ดังนั้นถ้าไม่มีอดีต.....อนาคตก็จะไม่เกิดขึ้น
แต่ในทางกลับกันในทางภาพยนตร์.....ถ้าไม่Equal.....Sequal Prequalก็จะไม่เกิดขึ้น
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
วันอาทิตย์ที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2550
Sin City
Sin City….คือ “หนังอาชญากรรมที่เล่าเรื่องตัดสลับเรื่องราวพร้อมกับมุขตลกเจ็บแสบและกลิ่นอายของ Pulp fiction” นี่อาจเป็นคำนิยามของเมืองบาปแห่งนี้หากว่าหนังนำแค่เนื้อหาในการ์ตูนมาเล่าเรื่องด้วยรูปแบบภาพยนตร์ทั่วไป แต่เมื่อ Robert Rodriguez เลือกที่จะลาออกจากThe Directors' Guild of America เพื่อดึงFrank Miller ผู้สร้างเมืองนี้มากับมือมาเป็นผู้กำกับร่วมกัน ทดลองที่จะฉีกรูปแบบภาพยนตร์ทั่วๆไปทิ้งและคงความเป็นการ์ตูนของต้นฉบับไว้ให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นภาพสีขาวดำที่เล่นสีเป็นครั้งคราว (รองเท้าผ้าใบสีแดงนี่เหลือเกิน) การถอดฉากมาจากในหนังการ์ตูนโดยไม่ได้สร้าง storyboard ขึ้นมาใหม่และ CG ทั้งหลายแหล่ที่แนบเนียนไปกับตัวภาพยนตร์กับการถ่ายหนังทั้งเรื่องด้วยกล้อง High-Definition digital ทำให้เมืองบาปนี้โดดเด่น เจ๋ง และไม่ใช่แค่ว่าสไตล์จะโดดเด่นเกินเนื้อหนังแต่เป็นสไตล์ของหนังที่ช่วยขับเสริมตัวหนังให้โดดเด่นมากขึ้นไปอีก
Hartigan ตำรวจใกล้ปลดระวางที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง(ความยุติธรรมความดีงามในสังคม การทารุณกรรมต่อเด็ก / เหยื่อของสังคมที่เขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือในเรื่องคือเด็ก)
Marv ชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์ที่ใครๆก็ไม่เหลียวแล ต่อสู้เพื่อตอบแทนในความศรัทธาต่อตัวเองของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีให้(ศักดิ์ศรีและคุณค่าของมนุษย์ / เหยื่อของสังคมที่เขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือคือตัวเขาเองที่เป็นเหมือนคนที่ถูกลืม)
Dwight ชายหนุ่มที่ต่อสู้เพื่อปกป้องอิสตรีและพวกพ้อง(ชนชั้นล่าง เพศหญิงและการรุนแรงต่อสตรี /เหยื่อของสังคมที่เขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือคือเพศหญิง)
Sequenceของหนังเรื่องนี้
1.Sequenceที่จัดเป็นเนื้อเรื่องของHartigan
2.Sequenceที่จัดเป็นเนื้อเรื่องของMarv
3.Sequenceที่จัดเป็นเนื้อเรื่องของDwight
4.Sequenceที่มาจากการเรียงลำดับของเนื้อเรื่องทั้ง3เข้าด้วยกัน
5.Sequenceที่มาจากดำเนินเรื่องของเหตุการณ์ตามปกติ
6.Sequenceที่มาจากการเรียงความสัมพันธ์ของบุคคลในเนื้อเรื่อง
7.Sequenceที่มาจากการสุ่มเลือกเนื้อเรื่องขึ้นมาโดยยังสามารถดูตอนอื่นโดยไม่สับสน
8.Sequenceที่มาจากการลำดับเหตุที่มาจากและผลกระทบที่เกิดจาก
Hartigan ตำรวจใกล้ปลดระวางที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องที่ไม่มีใครกล้าแตะต้อง(ความยุติธรรมความดีงามในสังคม การทารุณกรรมต่อเด็ก / เหยื่อของสังคมที่เขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือในเรื่องคือเด็ก)
Marv ชายหนุ่มหน้าตาอัปลักษณ์ที่ใครๆก็ไม่เหลียวแล ต่อสู้เพื่อตอบแทนในความศรัทธาต่อตัวเองของผู้หญิงคนหนึ่งที่มีให้(ศักดิ์ศรีและคุณค่าของมนุษย์ / เหยื่อของสังคมที่เขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือคือตัวเขาเองที่เป็นเหมือนคนที่ถูกลืม)
Dwight ชายหนุ่มที่ต่อสู้เพื่อปกป้องอิสตรีและพวกพ้อง(ชนชั้นล่าง เพศหญิงและการรุนแรงต่อสตรี /เหยื่อของสังคมที่เขาต่อสู้เพื่อช่วยเหลือคือเพศหญิง)
Sequenceของหนังเรื่องนี้
1.Sequenceที่จัดเป็นเนื้อเรื่องของHartigan
2.Sequenceที่จัดเป็นเนื้อเรื่องของMarv
3.Sequenceที่จัดเป็นเนื้อเรื่องของDwight
4.Sequenceที่มาจากการเรียงลำดับของเนื้อเรื่องทั้ง3เข้าด้วยกัน
5.Sequenceที่มาจากดำเนินเรื่องของเหตุการณ์ตามปกติ
6.Sequenceที่มาจากการเรียงความสัมพันธ์ของบุคคลในเนื้อเรื่อง
7.Sequenceที่มาจากการสุ่มเลือกเนื้อเรื่องขึ้นมาโดยยังสามารถดูตอนอื่นโดยไม่สับสน
8.Sequenceที่มาจากการลำดับเหตุที่มาจากและผลกระทบที่เกิดจาก
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5
ทฤษฏีต่างๆ
ทฤษฏีDejevu ทฤฏีนี้หลายคนอาจบอกว่า เฮ้ย!ไอ้แนวมึงดูหนังมากไปป่าววะ? สงสัยมึงท่าจะบ้าว่ะ มันไม่ใช่นะครับ ทฤษฏีนี้เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจริงหรือคิดไปเองก็ได้
ทฤษฏีDejevuที่4 : คิดไปเอง
ทฤษฏีDejevuที่1 : ตามหลักอดีตชาติ มันได้เกินขึ้นแล้วในอตีด แล้วจะย้อนกลับมาเกิดอีก เราผ่านประสบการณ์มากมาย และบางสิ่งอาจหลงเหลือในความทรงจำ แล้วย้อนกลับมาเกิดขึ้นอีก ทำให้รู้สึกว่าเคยเกิดขึ้นมาก่อน ซึ่งทฤษฏีนี้เป็นประสบการณ์ทางจิตวิญญาณบางครั้งอาจเกิดขึ้นขณะที่หลับ
ทฤษฏีDejevuที่2 : Dejavuเป็นพลังจิตรูปแบบหนึ่งของทิพยจักขุญาณ ซึ่งได้จากการเจริญภาวณาของกสิณ3 โดยที่จริงแล้วเราทุกคนมีพลังจิต แต่ความอ่อน-เข้มจะต่างกัน เพราะเราไม่ได้ฝึก ถ้าเราฝึกได้เราก็จะสามารถควบคุมพลังได้
ทฤษฏีDejevuที่3 : Dejevuเกิดจากจักรวาลคู่ขนาน (ในโลกที่มีเราอยู่ในข.ณะนี้ในขณะเดียวกันก็มีเราอยู่อีกโลกหนึ่งและอีกมากมายนับไม่ถ้วน) ที่ได้ดำเนินมาพร้อมจักรวาลที่เราอยู่ตอนนี้ จะเป็นในทางเดียวกันหรือต่างกันก็ได้ โดยจะมีเหตุการณ์ให้เลือกคล้ายการทอกเต๋า
ทฤษฏีDejevuที่4 : คิดไปเอง
Resume
(หน้า)
(หลัง)
การออกแบบResumeตัวเอง งานชิ้นนี้เป็นงานที่ผมประทับใจที่สุด เพราะทำได้ดีออกมาเกินคาดซึ่งตอนนั้นอ.ลี่กะอ.เก๋ได้ให้ออกแบบResumeตัวเอง ซึ่งเป็นงานออกแบบครั้งแรกในฐานะนักศึกษาEditerial Design
ป้ายกำกับ:
Communication Design 5,
Editerial Design
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)